Privacy Notice

1. บทนำ

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัท เอนนี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีสถานะเป็นผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ("บริษัท") เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้บริการซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคค("ท่าน") ทราบถึงการดำเนินการบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ("ประมวลผล") ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยยึดถือตามแนวปฏิบัติพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ("พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล") 

2. ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

3.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปอันเกี่ยวกับการใช้บริการในปัจจุบันและที่อาจมีเพิ่มขึ้นในอนาคตดังต่อไปนี้

ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลที่เกี่ยวกับการติดต่อของท่าน เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล เป็นต้น โดยเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

• ข้อมูลการใช้บริการของบริษัทรวมถึงข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลการชำระเงิน หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น

• ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมาย คำขอตามกฎหมายของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและ/หรือคำสั่งศาล

3.2 บริษัทไม่มีนโยบายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามมาตรา 26 แห่งพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว สมาคมฯ จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่น

4. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ

หากบริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์  คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ ("ผู้หย่อนความสามารถ") บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้หย่อนความสามารถ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

5. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้

5.1 ด้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการต่าง ๆ รวมถึง

• จากความสมัครใจของท่าน ในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน

• จากการใช้บริการบริษัทของท่าน

5.2 จากบุคคลที่สามซึ่งมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือผู้รับจ้างของบริษัท โดยได้รับข้อมูลผ่านทางอีเมล ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ หรือได้รับเป็นเอกสารซึ่งผู้ที่เปิดเผยมีสิทธิให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือได้รับข้อมูลจากขั้นตอนการให้บริการต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกันที่บริษัทเก็บรวบรวมเองตามที่ระบุไว้ข้างต้น

6. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

• เพื่อให้บริการแก่ท่าน

• เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน

• เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ 

• เพื่อส่งหนังสือแจ้งค่าบริการ การแจ้งเตือนให้ชำระค่าบริการ จัดทำใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี

• เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านในการเข้าใช้บริการ

• เพื่อแจ้งและนำเสนอสิทธิประโยชน์ ข้อมูล ข่าวสาร และข้อเสนอต่าง ๆ เกี่ยวกับบริการต่าง ๆ บริษัทแก่ท่าน

• เพื่อการแจ้งข้อมูล ข่าวสารจากหน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐ

• เพื่อความปลอดภัยหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคล

• เพื่อวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

• เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายให้อำนาจในการประมวผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

• เพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและเครือข่ายการให้บริการของบริษัท

• เพื่อการรักษาความปลอดภัยของสถานประกอบการ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรม เป็นต้น

7. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ และจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น กล่าวคืออยู่บนฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ อันเกี่ยวกับการใช้บริการของท่านหรือข้อมูลอื่นใดที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ดังที่อธิบายไว้ในข้อ 3 ข้างต้นให้แก่หน่วยงานราชการตามกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารและผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรม ผู้รับจ้างให้บริการสนับสนุนลูกค้า ผู้รับจ้างให้บริการจัดการด้านการตลาดและการโฆษณา ที่ปรึกษาของบริษัทรวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใดที่บริษัท และ/หรือท่านเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อป้องกันการฉ้อโกง และบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก หากมีการเปลี่ยนแปลงในพันธกิจของบริษัทที่อาจมีการใช้ข้อมูลของท่านในลักษณะเดียวกับที่อธิบายไว้ในปรกระกาศความเป็นส่วนตัวนี้

ในกรณีที่บริษัทว่าจ้างผู้อื่นให้ทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และจัดให้มีการลงนามในข้อตกลงเพื่อควบคุมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เหมาะสมและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

บริษัทอาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล หน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ ที่มิได้มีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (Appropriate safeguards) ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะทำให้มั่นใจว่า การโอนข้อมูลดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย

8. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

• ลักษณะการเก็บ: จัดเก็บเป็นหนังสือ (Hard copy) และจัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Soft copy) โดยมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

• ระยะเวลาจัดเก็บ: บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือภายในระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายระหว่างท่านและบริษัท หรือภายในระยะเวลาการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของคู่สัญญา หรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนด

• เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิ หรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ภายในระยะเวลาอันควร

9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

9.1 สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)

• เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะแล้ว ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน

• หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางอย่างให้แก่ท่านได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม

9.2 สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (Right to access)

• ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน

9.3 สิทธิในการขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)

• ท่านมีสิทธิในการขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้ ทั้งนี้ สิทธิในการขอให้โอนนี้ใช้เฉพาะกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้เท่านั้น

9.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)

• ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

9.5 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure)

• ท่านมีสิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

9.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing)

• ท่านมีสิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

9.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification)

• ท่านมีสิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่สมบูรณ์ โดยบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง

• ในกรณีที่ท่านขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างที่บริษัทพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นต้องยืนยันตัวตนท่านเพิ่มเติม บริษัทจะขอเอกสาร และ/หรือข้อมูลเพิ่มเติม

ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อยื่นคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้น ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ ท่านไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการใช้สิทธิของท่าน แต่ทั้งนี้อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามแต่กรณีหากพบว่าคำขอของท่านไม่มีมูล ซ้ำซาก หรือมีจำนวนมากเกินจำเป็น อนึ่ง บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอที่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต คำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล คำร้องขอที่กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ และ/หรือคำร้องขอที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอของท่านตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

9.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to lodge of complaint)

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าบริษัท หรือ ลูกจ้างของบริษัทกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  ติดต่อสอบถามหรือร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคล (สคส.) โทร. 02-141-6996 และ 02-142-1033 อีเมล saraban@pdpc.or.th

10. ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทหากท่านเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้

11. กิจกรรมของบริษัท

ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทจะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมและบริการของบริษัท รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรของบริษัทที่ท่านอาจมีความสนใจ โดยท่านสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด

12. นโยบายคุกกี้ (Cookies)

คุกกี้คืออะไร Cookies คือ Text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่าน เช่น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ในขณะที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท โดยคุกกี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารของท่าน ที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล Log การใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของ Cookies ได้จาก https://www.allaboutcookies.org

เวปไซต์ของบริษัทไม่ได้พัฒนาฟังก์ชั่นเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลผ่านคุกกี้โดยตรง แต่อุปกรณ์ของท่านอาจเก็บรวมรวบข้อมูลผ่านคุกกี้ทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้งาน ท่านสามารถปฏิเสธการรวบรวมข้อมูลผ่านคุกกี้โดยการตั้งค่าบราวเซอร์ของท่าน ทั้งนี้ การตั้งค่าดังกล่าวอาจลดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันลง

13. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทมีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิม โดยหากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปภายหลัง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับแล้ว ท่านสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมได้ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด

14. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น

นโยบายความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัท และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัท

15. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวในเว็บไซต์โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

16. ช่องทางการติดต่อบริษัท

ในกรณีที่ท่านมีข้อซักถามเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อ

อีเมล: dpo@anythailand.co.th

ที่ตั้งบริษัท:  32/687 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140